วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ความทรงจำนอกกระแส “บะก่องถี่เมืองพาน”



ความทรงจำนอกกระแส
“บะก่องถี่เมืองพาน”
~ สาวหล้า ~
 

ท้องฟ้าปลายวสามืดครึ้ม เต็มไปด้วยเมฆาก้อนมหึมามันพร้อมที่จะถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ เสียงฟ้าร้องอึกทึกครึกโครมดังราวกับงานปอยหลวง ยายแก่ๆ อายุราว 80 ปี นั่งตำน้ำพริกแข่งกับเสียงฟ้าร้องอยู่ในครัว ยายนางกำลังทำกับข้าว และมีหลานสาววัยเบญจเพสช่วยเป็นลูกมือ ระหว่างที่อีน้องแหว๋วกำลังนั่งเด็ดผักเตรียมให้ยายใส่แก๋งแคไก่ ก็ได้ยินเสียงยายนางเอ่ยค่าวสั้นๆ ขึ้นมาว่า

หยั่งใจ๋คนนั้น บ่ตึ๊กถึงได้ หยั่งน้ำเมื่อใด ยังโผล่มาได้ ดูคนใจ๋หิน

หลายสาวคิ้วขมวดทำท่าสงสัย

ยายพูดอะหยัง แหว๋วบ่เคยได้ยิน

ค่าว

ค่าว หลานสาวย้ำคำ

เป็นคำค่าวที่เขาใช้เป็นปัญหาทายบะก่องถี่

บะก่องถี่มันคืออะไรยาย หลายสาวสังสัย

ยายนางตั้งท่าเล่า “บะก่องถี่ เป็นการเสี่ยงโชคของชาวไทใหญ่ ที่พม่าปู้น หรือเรียกง่ายๆ  มันคือการพนันอย่างหนึ่ง เมื่อปางอดีตที่หล่ายหน้าแม่สายจะมีปอยปางวาดในช่วงตอนหน้าหนาวหลังเก็บเกี่ยวข้าวในทุ่งนาแล้ว คนไทยนิยมเล่นบะก่องถี่กันมากมาย จนกระทั้งการพนันชนิดนี้ได้แพร่เข้ามาทางแม่สาย รวมถึงเมืองพานบ้านเราด้วย”

แก๋งแคของยายนางหอมอบอวนกลบกลิ่นไอฝนที่กำลังกระจายมาถึง ยายนางเอื้อมมือยกหม้อดินลงจากเตาไฟช้าๆ แล้วก็เล่าต่อ

“การพนันชนิดนี้เป็นการหารายได้เข้ารัฐของพระมหากษัติย์หรือเจ้าฟ้าในภาษาไต ดังนั้นเจ้ามือก็คือเจ้าฟ้า แต่บ่ะก่องถี่ในเมืองพานหลังไฟไหม้กาดปี 2500 – 2510 เศษนั้น เจ้ามือก็คือคนธรรมดาๆ นี้เอง ชื่อนายใจ๋ แต่เนื่องจากมีคนชื่อใจ๋หลายคน วัฒนธรรมคนเมืองต้องตั้งฉายานามเพื่อจำแนกแยกจากคนชื่อใจ๋อื่น ชาวบ้านโดยเฉพาะแฟนๆ ชาวบะก่องถี่ทั้งหลายจึงให้ฉายาเจ้าฟ้าท้ายชื่อกลายเป็น ใจ๋เจ้าฟ้า หรือเรียกอีกอย่างว่า เจ้าฟ้าใจ๋

ฮ่าๆ ฮ่าๆ .... อีน้องแหว๋วหัวเราะชอบใจ แล้วถามต่อ

“ยาย แล้วเขาเล่นกันยังไง”

ยายนางยิ้มแล้วเล่าต่อ

“การเล่นก็ไม่ยาก จะมีองค์ประกอบหลักๆ 6 ตัว หรือ 36 หัวเมือง เป็นสิงห์สาราสัตว์ 34 ตัว ที่เหลือเป็นแม่ชีกับแหวน ตามกฎ กติกาการเล่นบะก่องถี่ ตัวปริศนาหรือตัวทายเหล่านี้ถูกจัดไว้ตายตัว โดยมีช้างคู่กับอีเห็น ม้าคู่กับนกยูง กระต่ายคู่กับแหวน ฯลฯ เป็นต้น ดังนั้นตัวปริศนาหรือตัวทายทังหมดจึงจับคู่ได้ 18 คู่ การจับคู่มีความหมายสำหรับเจ้ามือมากกว่าผู้เล่นหมายเลข 1 วอก (ลิง)           คู่กับ    หมายเลข 18 ปลาคำ (ปลาทอง)
หมายเลข 2 กระต่าย           คู่กับ    หมายเลข 5 แหวน
หมายเลข 3 ปลาเงิน            คู่กับ    หมายเลข 35 ขี้เดือน (ไส้เดือน)
หมายเลข 4 นกก๋าแก๋(นกพิราบ) คู่กับ    หมายเลข 16 นกแดง
หมายเลข 6 ไก่                 คู่กับ    หมายเลข 28 ปลาเหยี่ยน (ปลาไหล)
 หมายเลข 7 แม่ขาว (แม่ชี)      คู่กับ    หมายเลข 12 กว๋าง (กวาง)
หมายเลข 8 อีเห็น              คู่กับ    หมายเลข 20 ช้าง
หมายเลข 9 หมา               คู่กับ    หมายเลข 14 หนู
หมายเลข 10 ก่ำปุ้ง (แมงมุม)    คู่กับ    หมายเลข 25 งัว (วัว)
หมายเลข 11 เต่า               คู่กับ    หมายเลข 27 ก่ำเบ้อ (ผีเสื้อ)
หมายเลข 12 เป็ด               คู่กับ    หมายเลข 33 งู
หมายเลข 13 ม้า                คู่กับ    หมายเลข 26 นกยูง
หมายเลข 15 หอย              คู่กับ    หมายเลข 31 เผิ้ง (ผึ้ง)
หมายเลข 17 แมว               คู่กับ    หมายเลข 19 สิงโต
หมายเลข 21 ปู                 คู่กับ    หมายเลข 18 นาก
หมายเลข 22 แพะ              คู่กับ    หมายเลข 23 ก๋าดำ (อีกา)
หมายเลข 24 เสือ               คู่กับ    หมายเลข 29 นกยาง (นกกระยาง)
หมายเลข 30 กบ               คู่กับ    หมายเลข 34 หมา


บะก่องถี่มีวิธีการเล่นค่อนข้างง่ายมาก เพียงแต่นักแทงทั้งหลายจะต้องใช้สมองคิด ไตร่ตรอง ตีความ วิเคราะห์ปริศนาโจทย์จากค่าวให้แตก เมื่อได้คำตอบแล้วจึงเลือกแทงตัวทายปริศนาตัวใดตัวหนึ่งหรือหลายตัวใน 36 ตัว สมมุติว่าจากการวิเคราะห์ ค่าวและตีความ ปัญหาและ บะก่องดิบประจำงวดเชื่อว่าสัตว์ปริศนาน่าจะเป็น ม้าแต่เนื่องจากบะก่องถี่มีการจับคู่ไว้แล้ว 18 คู่ เจ้าฟ้าอาจจะออก นกยูงแทนก็ได้ (ม้า คู้กับ นกยูง) ถือว่าเป็นสิทธ์อันชอบธรรม ทำได้ไม่ผิดกติกาไม่ขัดต่อปริศนาโจทย์ ดังนั้นผู้ที่นิยมเสี่ยงโชคบะก่องถี่ทั้งหลาย มักจะซื้อคู่ของสัตว์หรือสิ่งของนั้นๆ ควบกันไปด้วยเพื่อกันการผิดหวังและเสียโอกาส ในกรณีนี้เมื่อแทงม้าส่วนใหญ่จะแทงนกยูงควบไปด้วย

สมมุติว่าบะก่องดิบกล่าวไว้ว่า : สัตว์ตัวนี้ปลิ้นป๊อกปลิ้นแป๊ก (หน้าไหว้หลังหลอก) ตีความแล้วน่าจะเป็นวอก (ลิง) แต่ควรจะซื้อปลาคำ (ปลาทอง) คู่ของวอก (ลิง)

ผลการออกบะก่องถี่จะเป็นสัตว์หรือสิ่งของ 1 ใน 36 ตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้น บะก่องถี่ในเมืองพานจะจ่ายคืนให้รางวัลบาทละ 25 บาท ในขณะที่หล่ายหน้า (ท่าขี้เหล็ก) แม่สาย บาทละ 27 บาท

        สายฝนเทลงมาจากฟ้าเหมือนกระแสธาราอันบ้าคลั่ง กระแสลมพัดตีเม็ดฝนกระจัดกระจายเป็น หยดน้ำนับร้อยนับพันหลั่งไหลลงมาไม่ขาดสาย น้านายลูกสาวคนเดียวของยายนางนั่งดูทีวีที่โซฟาร์ อีน้องแหว๋วยังคงสังสัยเรื่องบะก่องถี่ที่ยายเล่าฟังตอนเย็น

น้านาย น้ารู้จักบะก่องถี่ไหม

รู้ซิ....... น้านายหันมาตอบแล้วยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

สมัยที่น้าอายุราวๆ สัก 10 ขวบ น้าเคยเป็นเด็กเดินโพยมาก่อน แหว๋วนั่งฟังอย่างตั้งใจ
 “สมัยราวๆ พ.ศ. 2516 บะก่องถี่เป็นการเสี่ยงทายที่ได้รับความนิยมยิ่งกว่าหวยใต้ดินในสมัยนี้อีก  ตอนนั้นน้าเป็นคนขายบะก่องถี่ที่บ้านหนองบัว แล้วก็นำโพยไปส่งให้เจ้าฟ้าใจ๋  ก่อนที่บะก่องถี่จะออก ถ้าน้าขายได้ 5 บาท น้าจะได้รับค่าตอบแทน 1 บาท บางวันเจ้ามือก็จะใบ้บะก่องดิบให้น้า

บะก่องดิบ.... มันเป็นยังไง แหว๋วทำท่าสงสัย

น้านายเริ่มย้อนอดีตเล่าถึงความหลังตอนที่เคยเป็นเด็กเดินโพย

ยามเมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าตรู่ สาดส่องใบหน้าเด็กน้อยวัย 10 ขวบ ที่กำลังปั่นรถถีบเก่าๆ ไปขายบะก่องถี่

อีน้อยวันนี้มีบะก่องดิบไหม หญิงวัยกลางคนนุ่งผ้าซิ้น สวมรองเท้าแตะ มือถือถุงผักกาดที่เพิ่งซื้อมาจากตลาดเอ่ยถาม

ไม่รู้เจ้า วันนี้น้องไปหาเจ้าฟ้ามา แกบอกว่า มาทำไมเดี๋ยวตบปากบึนจื้อพื้อเลย
หญิงวัยกลางคนได้ยินจึงวิเคราะห์ว่าต้องเป็นหมูแน่นอน ชาวบ้านต่างก็พากันซื้อหมูตามๆ กัน วันนี้นายจึงขายบะก่องถี่ได้เยอะเลยทีเดียว

เสียงรถถีบเก่าๆ ดังเอียดอาดแข่งกับเสียงกบเขียดในท้องนา นายเด็กตัวน้อยผิวขาวดูสะอาดสดใสปั่นรถถีบนำโพยบะก่องถี่ไปส่งที่บ้านเจ้าฟ้าใจ๋ วันนี้นายได้ค่าตอบแทนถึงซาวกว่าบาท

เวลาประมาณ 5 ทุ่ม ไฟจากบ้านไม้ 2 ชั้น ในซอยวัดม่วงคำก็เริ่มส่องสว่าง ชายสูงวัยรูปหล่อ ผิวขาว ยืนบิดตัวอยู่หน้าบ้าน มีชาวบ้านมากมายมารวมตัวกันที่ลานบ้านของเขา

เจ้าฟ้าใจ๋ได้เวลาเฉลยบะก่องถี่ล่ะก้า ชายคนหนึ่งเอ่ยถามเจ้าฟ้าใจ๋ สักพักกล่องใบหนึ่งที่แขวนไว้ตั้งแต่เมื่อวานก็ถูกชักลอกลงมาจากต้นไม้ เพียงแค่ครู่เดียวก็มีเสียงโห่ร้องดังขึ้นมา แทรกด้วยวิเคราะห์วิจารณ์ และเสียงปรมมือดังสนั่น

ว่าแล้วเห็นไหม ออกแต้เลย ชาวบ้านพูดกันพรึมพรำ

        บะก่องถี่งวดนี้ออก หมูชาวบ้านถูกรางวัลกันหลายคน บางคนถึงกับแบ่งเงินให้กับอีน้องนาย เด็กน้อยที่นำบะก่องดิบไปให้ชาวบ้านวิเคราะห์กัน

อีน้องแหว๋วทั้งยิ้ม และหัวเราะชอบใจถึงเรื่องราวอันสนุกสนานในสมัยก่อน

ปางเมื่ออดีตนั้น คนในกาดเมืองพานติดบะก่องถี่กันงอมแงม ผู้คนต่างพากันนอนดึก เพราะเพียงแค่รอลุ้นผลบะก่องถี่ ทั้งๆ ที่ไฟฟ้าก็ยังไม่สะดวกมากนัก ถนนหนทางก็ยังมืด หลังจากที่บะก่องถี่ออกตอน 5 ทุ่ม ก็จะได้ยินเสียงวิจารณ์เบาๆ จนถึงอีกวันหนึ่งก็จะเริ่มวิจารณ์หนักขึ้น พร้อมกับเสียงแช่ด่า บ้างก็ว่าเจ้าฟ้าออกไม่ตรงปัญหาในค่าว บ้างก็ว่าตัวเองนี้โง่คิดตื้นเกินไป บางคนก็บอกว่าออกตรงที่ฝันไว้เลยแต่เสียดายไม่ได้แทง เจ็บใจตัวเอง ฯลฯ

บะก่องถี่ได้หายไปจากเมืองพานนับสิบๆ ปีแล้ว ปัจจุบันจึงเป็นแค่เรื่องเล่าต่อๆ กันมา เพราะหลักฐานต่างๆ เช่น แผงบะก่องถี่ หรือแม้แต่ตัวของเจ้าฟ้าใจ๋เอง ได้สูญหายไปพร้อมกับสังขาลย์ของเจ้าฟ้าใจ๋ไปหลายปีแล้ว และบ้านของเจ้าฟ้าใจ๋ปัจจุบันก็กลายเป็นตึกสูงใหญ่สำหรับทำการค้าไปแล้ว เจ้าฟ้าใจ๋ จึงเป็นบุคคลในความทรงจำของคนในเมืองพานเท่านั้น เมื่อเอ่ยถึงความทรงจำเกี่ยวกับบะก่องถี่แล้ว ยังมีบุคคลอีกคนหนึ่งที่ยังคงอยู่ในความทรงจำเมื่อเอ่ยถึงบะก่องถี่ในตลาดพาน นั้นคือ “ป้าเอื้อย” 


ในสมัยนั้นบะก่องถี่เป็นธุรกิจที่มีกำไรงาม ป้าเอื้อย ทนไม่ไหวกระโจนเข้าร่วมวงศ์ไพบูลย์เปิดบ่อนแข่งกับเจ้าฟ้าใจ๋ ขณะที่กำลังทำกำไรเพลินๆ วันหนึ่งป้าเอื้อยก็เสนอบะก่องดิบว่า

 “สัตว์ตัวนี้ฮ้องเสียงดัง”

5 ทุ่มคืนนั้น แฟนๆ บะก่องถี่ป้าเอื้อย คิดว่าอย่างไรเสียบะก่องถี่คืนนี้คงจะหนีไม่พ้น ช้าง ม้า วัว เสือ หรือสิงโต ตัวใดตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีเสียงร้องดัง ตรงกับปริศนาบะก่องดิบมากที่สุด

ในที่สุดทุกคนต้องผิดหวัง บะก่องคืนนั้นออก...แหวน...

สร้างความเฮฮาตลกขบขันมากในคืนนั้น บางคนก็ขำจนนอนไม่หลับ เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นแหววฮ้องได้ หลังจากนั้นแฟนๆ บะก่องถี่ต่างให้ฉายานามป้าเอื้อยใหม่ แทนที่จะใช้ คำว่า เจ้าฟ้า เหมือนเจ้ามือรายอื่นๆ กลับพร้อมใจกันให้ฉายาป้าเอื้อยด้วยอารมณ์ที่ขบขันแกมประชดว่า

“เอื้อยแหวนฮ้อง”

ปัจจุบันบะก่องถี่ก็ไม่มีใครขายหรือเปิดบ่อนเล่นแล้ว เพราะถือว่าเป็นการพนันที่ผิดกฎหมาย มีเพียงในบางพื้นที่เท่านั้นที่ยังแอบเล่นกันอยู่ แต่ก็ยังบ่พ้นจมูกของตำรวจอยู่ดี

ตัวอย่างปัญหาทายบะก่องถี่
ปัญหาข้อ ๑ : แก้วแก่นเม็ดค่ามันแปงหลวง เอาลุกตางเหนือมาขายตางใต้ กำไฮมีมากนัก ปั๋ญหาหื้อดูจ้าดนัก กลับปิ๊กป้อกบ้านเมือเมือง

ปัญหาข้อ ๒ : ฟังวิทยุใจ๋หลุใจ๋หาย ได้ฟังกำทำนายใจ๋ฮักขึ้น ต้องสายใจ๋ดีมโนต้องๆ ปอได้ดีคำเมาอิ่มต้อง ปัญหาหื้อดูไก่เมาถูกค้อน ก็ก้อยหายเป่งหม่อมเมาไป

ปัญหาข้อ ๓ : ท่าขี้เหล็กนี้บ้านเมืองคับขัน แม่สายแม่จันคนเดินไต่เต้า ปัญหาหื้อดูยามคืนนั้นเล่า เป๋นเปี๊ยะแห่งอั้นลายเมียว

ปัญหาข้อ ๔ : ยามดอกไม้ติ้กหาบานเผย ไผจมเจยไฅ่ดมดอกแก้ว ปัญหาหื้อดูตี้น้ำกิ่วเจี้ยวไหลไปยังบ่อก้าง

ปัญหาข้อ ๕ : ผ้าลายดอกไม้ยิ่งดูยิ่งสวย สอดหาตวยตี้ไหนบ่ได้ มีแต่ร้านเดียวกะลาแขกใต้ ตั้งขายอยู่หั้นฮิมตาง ปัญหามันแท้บ่ถ้าดูไกล๋ หื้อดูในร้านกูลาเถ้า

กำเฉลย
ปัญหาข้อ ๑ หวยออก แม่ขาว
ปัญหาข้อ ๒ หวยออก จ้าง
ปัญหาข้อ ๓ หวยออก อีเห็น
ปัญหาข้อ ๔ หวยออก กระต่าย
ปัญหาข้อ ๕ หวยออก กบ


 

20 ความคิดเห็น:

  1. มีคำถามอยู่ว่า
    เป๋นช่่างก่อสร้าง แป๋งบ้านฮื้อเขา
    ส่วนบ้านของเฮา เต่าเล้าเป็ดน้อย
    ป.ดู ร้านก่อสร้าง ดิบ สล่าแป๋งบ้าน ช่างปูน
    ...คิดว่าเป็นสัตว์ อะไร

    ตอบลบ
  2. อย่าอวดสูงกว่าป่อแม่อย่าอวดแก่กว่าจ๋าน
    ป.ดู เงินปลอม/ดิบ ระฆัง





    ตอบลบ
  3. ผ้าลายดอกไม้
    ยิ่งดูยิ่งสวย
    เซาะหาคนตวยตามใส่กัน๋แน่นเมือง
    =ดูวันสงกรานต์=

    ตอบลบ
  4. มีน้องเมียงาม
    ไผ่ก็อิจฉา
    แต่น้องเมียข้า
    มันเป็นป้อจาย
    ดูคนโชคร้ย

    ตอบลบ
  5. ตะก่อนกัญชา
    กินแล้วเมา
    ม่ะเด่วเปิ้ลเอา
    รักษาโรคได้
    ดูยาแผนโบราณ

    ตอบลบ
  6. ตอนอยู่นอกบ้าน ยิ่งใหญ่ขับฟ้า กลับเข้าบ้านมา เมียข้าใหญ่ยิ่ง
    ดู คนไม่จริง

    ตอบลบ
  7. ในสายตามด
    ตัวมันใหญ่​มาก
    กิน​กินนอนนอน
    วางตนเรียบร้อย​

    ไว้ ~สถาปนิก

    ตอบลบ
  8. เป็นแม่งขี้เล่นเพลนเพล่านไปทั่วผู้คนเมามั่วดูแม่งขี้เล่น

    ตอบลบ